มีอย่างนี้ก็ไม่ไหว กับการที่ แม่ค้าข้าวมันไก่ รายหนึ่งใน จ.ตราด ที่เผชิญกับการกลั้นแหล้งจากเพื่อนบ้านเป็นระยเวลา 10 กว่าปี ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกรวยขวางทางจราจร และการร้องเรียนเรื่อง เสียงสับไก่ ดัง
(15 มิ.ย. 2565) ร.ต.อ. วิชาพัฒน์ จันศรีเจริญ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรข้าวมันไก่ (สภ. บ่อไร่) ได้รับเรื่องแจ้งจากนายชนะศักดิ์ ศิริธรรม อายุ 50 ปี ภายหลังจากที่เจ้าตัวถูกเจ้าของบ้านที่อยู่บริเวณตรงข้ามกับร้านขายข้าวมันไก่แห่งหนึ่ง ณ ถนนเทศบาลซอย 1 จ.ตราด หาเรื่องหลังจากทำการจอดรถเพื่อรับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว รวมถึงในกรณีที่มีการนำกลวยจราจรมาตั้งบนช่องทางวิ่งรถจักรยานยนต์ของถนนเส้นดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ภายหลังจากได้รับแจ้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และพบว่ามีการนำกลวยจราจรมาตั้งไว้จริง จึงได้มีการโยกย้ายกลวยดังกล่าวไว้ตรงที่ทางเท้าแทน
โดยนายชนะศักดิ์ ที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประจำพื้นที่ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เดิมทีนั้น ถนนเส้นดังกล่าวจะเป็นจุดขาวดำ และเปิดให้สามารถนำรถยนต์มาจอดได้ แต่เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้ร้องเรียนให้ปรับเปลี่ยนให้เป็นจุดแดงขาว ห้ามการจอด พร้อมทั้งทำการยึดครองพื้นที่ด้วยรถจักรยานยนต์นานหลายปี ซึ่งเหตุผลนั้นก็เนื่องมาจากตัวเจ้าของบ้านรำคาญเสียง และควันรถ
ในท้ายที่สุดนั้น ทางเทศบาลตำบลบ่อพลอยก็ได้มาดำเนินการทาสีเปลี่ยนจุดให้ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่พอใจนำเอากลวยจราจรมาตั้งขวางเพิ่มเติมอีก
ซึ่งในวันที่แจ้งความนั้น ตัวนายชนะศักดิ์ ได้ทำการจอดรถที่บริเวณจุดขาวดำ เพื่อแวะรับประทานอาหาร ซึ่งเจ้าของบ้านได้มาเห็น และเมื่อรับประทานเสร็จแล้วนั้น เจ้าของบ้านก็ได้ออกมายืนมองหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่า “ใีปัญหามาคุยกับผลได้” โดยตนมองว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง จึงได้แจ้งความให้ตำรวจมาจัดการ
ขณะที่ นางสุภาภัค แม่ค้าข้าวมันไก่ เจ้าของร้านที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านเจ้าปัญหา ก็ได้เสริมว่า ตนเองถูกเจ้าของบ้านรายดังกล่าวกลั่นแกล้ง และเป็นคู่กรณีในประเด็นต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลานานร่วม 10 กว่าปี โดยประเด็นที่ว่าก็เช่น การปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ลูกค้าสามารถจอดรถใช้บริการได้ และที่สำคัญก็คือ การที่ร้องเรียนว่า เสียงสับไก่ ของตนเองดังรบกวนเวลาพักผ่อน
ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสาธารณสุขบ่อไร่ที่ดูแลเรื่องร้องเรียนที่ว่าก็ได้กล่าวว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวที่มา้องเรียนนั้น อาจจะมีความผิดปกติก็เป็นได้
โดยทางนางสุภาภัคได้กล่าวส่งท้ายว่า ตนเองไม่เคยตอบโต้การกลั่นแกล้งดังกล่าวแต่อย่างใด โดยการดำเนินการในประเด็นนี้นั้น ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ – เทศบาลตำบลบ่อพลอยที่จะดำเนินการต่อไป
สาวสติไม่ดีปีนรถฉุกเฉิน ส่งรักษา รพ.จิตเวช นับ 10 ครั้ง พบวีรกรรมเพียบ
สาวสติไม่ดีปีนขึ้นหน้ารถ หักที่ปัดน้ำฝน บริเวณวงเวียนน้ำพุหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่เผย เคยถูกจับส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช นับ 10 ครั้ง แต่สุดท้ายกลับออกมาก็ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม
จากกรณีโลกออนไลน์พากันแชร์คลิปของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้โพสต์ภาพและคลิปวีดีโอ ปรากฏ ภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวรายหนึ่งกำลังปีนขึ้นไปเกาะอยู่ตรงหน้ารถยนต์ ที่ขณะกำลังจอดติดไฟแดงอยู่
หญิงสาวคนดังกล่าวนั้น ได้ขึ้นไปนั่งตรงหน้ากระโปรงรถแล้วชูสองนิ้ว อีกทั้งยังแสดงพฤติกรรมนั่งหักที่ปัดน้ำฝนของรถออกทั้งสองด้าน จากนั้นปีนขึ้นไปบนหลังคารถแล้วเดินย่ำไปมา จนสุดท้ายไถลตัวลงมาพร้อมทั้งเดินหายไป
ตอ่มาทราบว่า รถคันดังกล่าวที่สาวสติไม่ดีขึ้นไปนั่งนั้น เป็นรถของสมาคมกู้ชีพบ้านพรุ หลังจากที่เปลี่ยนถ่ายคนไข้เสร็จและกำลังชะลอรถเพื่อเข้าวงเวียนน้ำพุ
ทั้งนี้ ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ ให้ข้อมูลของหญิงสิตไม่ดีเพิ่มเติมว่า เจ้าตัวเคยถูกจับส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ อ.เมือง จ.สงขลา มาแล้วเป็นสิบ ๆ ครั้ง แต่ออกมาก็เป็นแบบนี้ประจำ เคยมีสามีมาแล้วด้วย
โดยจะมีลักษณะนิสัยที่ชอบเดินอยู่ในเมืองหาดใหญ่ เป็นประจำ มีชาวบ้านพบเห็นไปนอนท้ายรถกระบะบ้าง ที่ผ่านมา เคยเข้าไปขอเสื้อในร้านขายเสื้อผ้าที่เคยเป็นข่าว ขอเสื้อแล้วเจ้าของร้านไม่ให้ หญิงสติไม่ดีก็ฉีกเสื้อตัวเอง แล้วบอกว่า เสื้อหนูขาด ขอเสื้อหน่อย
เท่านั้นไม่พอ บางครั้ง มีการก้มตัวลงไปดมควันรถที่จอดอยู่ ยืนโบกรถบ้าง ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็กำลังติดตามหาตัว และประสานญาติ เพื่อให้พาเข้ารักษาอย่างจริงจัง
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง